วันอาทิตย์ที่ ๑๐ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๐

ทำ web... อะไรดี





เมื่อวานนนี้...ได้มีโอกาสไปงานสัมมนา Next E-Business Model 2.0 ที่จัดโดย ThaiVenture.com ร่วมกับ มหาวิทยาลัยรังสิต ได้ข้อคิดอะไรดีๆ หลายอย่างทีเดียว เลยอยากจะเอามาแบ่งปันกัน

สำหรับ developer ทั้งหลายที่อยู่ในโลกของการเขียน application โดยเฉพาะ web application ทั้งหลาย ... เคยกันมั้ยครับ กับการที่มีความรู้สึกว่า อยากทำเวบดีๆซักเวบ... แต่ไม่รู้จะทำอะไรดี ก็ได้แต่ใช้บริการชาวบ้านชาวเมืองเค้าที่มีเวบดีๆ ใหม่ๆ มาให้เราเล่นเรื่อยๆ

... พูดอีกอย่างหนึ่งก็... ไอเดียตัน ไม่รู้จะทำอะไรดี...

ลองมาแชร์ไอเดียกันนิดนึงครับ ความจริงแล้วการสร้างอะไรใหม่ๆ ขึ้นมา เราไม่จำเป็นที่จะต้องเริ่มจากศูนย์ทั้งหมด แต่ยังสามารถเอาสิ่งที่มีอยู่แล้วมาต่อยอดได้อีก (synthesis) ลองคิดดูแบบง่ายๆ ที่สุดในการสร้าง web application ขึ้นมาก็คือ ... ลองมองไปรอบๆ ตัว แล้วดูว่ามีอะไรบ้าง เช่น
  • หนังสือพิมพ์
  • ร้านค้าปลีก
  • ทีวี, วิทยุ
  • ไดอารี่
  • ร้านหน้งสือ
  • Music Shop
  • สภากาแฟ

    แล้วก็เอามาทำเป็น web ซะ... ดูดีมีระดับ เป็นอีกทางเลือกหนึ่งให้กับผู้คนโลกไซเบอร์ กลายเป็น
  • Online Newspaper
  • Online Shopping
  • e-TV / podcast
  • Diary Online
  • Online BookStore
  • iTune
  • Webboard

    ต่อมา... เรามาว่ากันถึงการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ดูบ้าง ถ้าจะพูดถึง concept ในยุค web2.0 กำลังเฟื่องฟู ก็ต้องพูดว่า "Web 2.0 - Make our life easier" คือถ้าจะหาอะไรใหม่ๆ ก็ต้องดูด้วยว่า ไอ้สิ่งที่จะทำเนี่ย มันช่วยให้ชีวิตใครดีขึ้นบ้าง... หรือช่วยลดค่าใช้จ่ายอะไรลงได้บ้าง ค่าใช้จ่ายเหล่านี้เค้าเรียกกันว่า Transaction Cost ครับ ตัวอย่าง Transaction Cost ก็มีดังต่อไปนี้
  • Fix cost of exchange - คือ ค่าใช้จ่ายทั่วไปเวลาซื้อของ เช่น ใบเสร็จ อุปกรณ์ใส่สินค้า packaging ฯลฯ
  • Search cost - ประมาณว่า กว่าผู้ผลิตกับผู้บริโภคจะเจอกันได้เนี่ย ต้องเสียค่าใช้จ่ายต่างๆ เช่น ค่าเดินทาง
  • Information cost - ค่าใช้จ่ายและเวลาในการค้นหาข้อมูล
  • Monitoring cost - ค่าดูแลรักษาและจับตาดูมาตรฐานของสินค้า เช่น ถ้าเราซื้อไก่จากฟาร์มเราต้องคอยตรวจสอบว่า จะมีครั้งไหนเค้าให้ไก่หวัดนกมาบ้างรึเปล่า เป็นต้น

    คราวนี้ เราก็ต้องคอยมองหาว่า เวลาเราสร้างระบบขึ้นมาอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้คนเนี่ย มันลด Transaction cost เหล่านี้ไปบ้างมากน้อยแค่ไหน...

    พอได้ไอเดียกันบ้างมั้ยครับ ... อันนี้เป็น opening ของสัมมนาคราวนี้ เอาไว้จะทยอยๆ เอามาเล่าให้ฟังอีก
  • ไม่มีความคิดเห็น: